วันนี้เราก็จะมาติดตามประเด็นดราม่า เดือดทัวร์ลงครู โพสต์บอกสมัยนี้ไม่อดทน แค่ยืนตากแดดยังบ่นร้อน เพราะว่าเป็นเรื่องเดือนพอๆกับแดดเมืองไทยเลยล่ะค่ะ เมื่อมีครูมาโพสต์ต่อว่าเด็กนักเรียน ถามว่าเด็กนักเรียนสมัยนี้เนี่ยเป็นอะไร เข้าแถวร้องเพลงชาติแดดนิดๆหน่อยๆก็บ่นว่าร้อน แล้วแบบนี้จะเรียนจบสูงๆ ทำงานดีๆได้ยังไง เดี๋ยวเรามาติดตามประเด็นดราม่าร้อนนี้ไปพร้อมกันค่ะ แต่ก่อนที่จะไป แอดมินก็ต้องขอฝากให้ไปติดตาม ดราม่าสอบหมอ 7 ครั้ง กันด้วยนะคะ แล้วในวันนี้แอดมินก็ต้องขอขอบคุณ tiger444 ที่สนับสนุนบทความของเราในวันนี้ด้วยค่ะ

จุดเริ่มต้นมันมีเทรดสมัครงานสอบราชการเค้าแคปโพสต์ของครูคนหนึ่งมาลง ซึ่งครูคนเนี่ยเค้ามาตั้งคำถามที่ชวนขัดใจชาวเน็ตอย่างมากเลยละค่ะ บอกว่างงเด็กนักเรียนสมัยนี้มันเป็นอะไร เข้าแถวตากแดดร้องเพลงชาติ สวดมนต์ และฟังครูให้โอวาท บ่นกันว่าร้อน ถ้าเข้าแถวตากแดด ฝึกความอดทนได้แค่นี้ ยังไม่ได้ โตขึ้นพวกเธอจะเรียนจบสูงๆ หรือว่าทำงานดีๆได้ยังไง สมัยครูเมื่อ 20 ปีที่แล้ว แดดแรงกว่านี้อีก

ยังทนกันได้ แต่สมัยนี้โดนแดดนิดนิดๆหน่อยๆ บ่นว่าร้อน ตำหนิติอะไรก็ไม่ค่อยได้ ผู้ปกครองก็เรื่องเยอะ ถ้าเรื่องเยอะกันนัก ทำไมไม่สอนกันเอง จะส่งเข้าโรงเรียนทำไม เป็นห่วงอนาคตเด็กไทยสมัยนี้ ไม่รู้โตขึ้นจะเป็นยังไง แค่โพสต์นี้ของคุณครู ก็เกิดเป็นประเด็นดาม่าขึ้นมา เพราะว่ามีหลายเพจเอาไปแชร์ เอาไปทำข่าวกัน แล้วแชร์ ชาวเน็ตที่ผ่านมาเห็นก็คือของขึ้นกันกับทัศนคติของครูคนนี้กันเต็มเลยค่ะ โดยหลายคนมองว่า

สิ่งที่ครูพูดมาเนี่ย มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลย การที่เด็กตากแดด หรือว่าทนแดดได้ มันจะช่วยเด็กเรียนดีหรือว่าส่งผลต่อการทำงานในอนาคตของเด็กได้ยังไง การอดทนกับงาน เอามาเปรียบเทียบ กับการอดทนการยืนตากแดดมันคนละเรื่องกันเลยนะ เด็กไม่ได้เติบโตไปเป็นต้นไม้ การยืนตากแดดกันไหว แล้วมันประสบความสำเร็จ งั้นก็คงไม่ต้องเรียนกันแล้ว หรือว่าครูมองว่าการตากแดดมันจะช่วยให้เด็กได้ดี

งั้นครูก็มายืนกับนักเรียนด้วยเลย เห็นทุกทีเวลาเด็กยืนเข้าแถวหน้าเสาธง พวกครูก็ยืนกันในร่มตลอด แล้วก็ชอบมาบอกให้เด็กอดทน ทั้งที่ตัวเองยังไม่ทนเลย แต่เรื่องที่เอาสมัยก่อนมาเปรียบเทียบกับสมัยนี้ อีกทั้งที่ข่าวมันก็ออกกันโครมคราม ว่าโลกของเรามันร้อนขึ้นทุกปี ยิ่งปีนี้ก็คือร้อนขั้นสุดสมัย 20 ปีก่อนของครูมันจะมาร้อนกว่านี้ได้ยังไง อีกอย่างหนึ่งการที่ครูเอง เคยลำบากมาก่อน ก็ไม่จำเป็นจะต้องให้เด็กนักเรียน

ไปลำบากเหมือนกับครู มาให้เด็กยืนกลางแจ้ง ในอากาศแบบนี้ ถ้าเด็กนักเรียนเป็นอะไรไป ครูจะรับผิดชอบไหวหรือเปล่า โดยผู้ใหญ่หลายคน ก็ออกมาคอมเม้นต์กันด้วยนะคะ ว่าอย่าว่าแต่เด็กเลย ขนาดผู้ใหญ่นั่งในบ้านอยู่ใต้หลังคา มีร่มเงาปกคลุม ยังทนไอร้อนกันไม่ไหวเลย พอเห็นข่าวนี้ เค้าก็ออกมาสงสารเด็กกันเลยค่ะ พร้อมกับบอกเลยว่า ความจริงหลายโรงเรียนเค้าก็ให้นักเรียนเข้าแถวในร่มกันมานานแล้วนะ

อย่าพูดนานแค่ไหน ก็ไม่ทรมานเด็ก ซึ่งนั่นแหละค่ะ เพราะมันมีประเด็นนี้เกิดขึ้น หลายคนเค้าก็เลยเสนอเสนอกันมาค่ะ ว่าให้ยกเลิกการเข้าเข้าแถวหน้าชั้นเรียน ในทุกเช้า เพราะว่าสภาพอากาศบ้านเรา มันไม่ได้เอื้ออำนวยให้เด็กทำแบบนั้นเลย แล้วก็อย่างที่รู้เลยค่ะ ว่าอากาศร้อนเนี่ย มันร้อนทั้งโลกจริงๆ โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือแถบประเทศไทยเราเองนี่แหละค่ะ ก็ร้อนหนักหนักจัด เป็นพิเศษ

เป็นประวัติการเลย ยังเมียนมาร์ปีนี้เป็นเดือนเมษาที่ร้อนที่สุดในรอบ 56 ปี ตั้งแต่มีการบันทึกมาเลยอุณหภูมิของเค้าเนี่ย 48 องศาเข้าไปแล้ว อย่างฟิลิปปินส์ก็พุ่งไป 53 องศาแล้ว ขนาดของประเทศไทยเราเองยัง 44.2 องศาเลยค่ะ ซึ่งกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แล้วก็สิ่งแวดล้อม เค้าก็บอกด้วยนะคะว่า ประเทศไทยเรากำลังเผชิญกับสภาพอากาศรุนแรงสุดขั้ว ทั้งฝนตก น้ำท่วม ภัยแล้ง แล้วก็ไฟป่าที่เพิ่มขึ้น

ด้วย ซึ่งความร้อนระดับนี้เนี่ยมันอันตรายมากเลยนะคะ มีข่าวออกมาว่าคนเนี่ยเป็นฮิสโตรกกันเยอะเลยประเทศไทยเรา มีทั้งช่วยเหลือทัน และเสียชีวิตด้วย อย่างในสัตว์เลี้ยงเอง น้องหมา น้องแมวเอง ก็เป็นฮีสโตรกกันเยอะมาก น่าสงสารสุดๆเลยค่ะ ซึ่งในหลายๆประเทศเค้าก็ได้มีการปรับตัวกันไปตามสภาพอากาศแล้วนะคะ ไม่ได้ให้เด็กๆมาทนร้อนกันอยู่แบบนี้ อย่างประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างฟิลิปปินส์

ที่มีอากาศค่อนข้างจะร้อนมากๆ กระทรวงศึกษาธิการบ้านเค้า ก็ได้มีการประกาศให้โรงเรียนกว่า 5000 โรงเรียนเปลี่ยนไปเรียนออนไลน์ขชั่วคราวแทน เพื่อไม่ให้นักเรียนต้องเดินทางฝ่าความร้อนมาเรียน เพราะว่ามันร้อนจนเด็กเรียนไม่รู้เรื่อง ครูเองก็สอนกันไม่ไหว แล้วอาคารเรียนก็คนเยอะแน่นไปอีกค่ะ

ก่อนจากกันแอดมินก็ต้องขอฝากเว็บไซต์ ข่าวสด ให้ติดตามความบันเทิงกันด้วยนะคะ