วันนี้แอดมินก็จะมาติดตามประเด็นข่าว จับแล้วสาวไทย ร่วมแก๊งอุ้มฆ่าหนุ่มไต้หวัน ล่าสุดตำรวจไปจับตัว มาได้แล้วนะคะ แล้วก็ได้มีการหลบหนี ไปที่ประเทศกัมพูชา เพื่อนบ้านบ้านเรา นี่เองค่ะ ซึ่งสาวคนดังกล่าว อายุ 23 ปีเท่านั้น เดี๋ยวเรามาติดตามประเด็นข่าว นี้ไปพร้อมกันค่ะ แต่ก่อนที่จะไป แอดมินก็ต้องขอ ฝากให้ไปติดตาม หนุ่มก่อสร้าง พาเมียท้องเดินเท้าจากโคราชกลับจันทบุรี กันด้วยนะคะ แล้วในวันนี้ แอดมินก็ต้องขอขอบคุณ รวยจัง ที่สนับสนุนบทความ ของเราในวันนี้ด้วยค่ะ

จับแล้วสาวไทย
ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

จับแล้วสาวไทย ร่วมแก๊งอุ้มฆ่าหนุ่มไต้หวัน

ล่าสุดทางการกัมพูชาสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ หนึ่งในห้าคนเป็นผู้หญิงชื่อว่านางสาวปิยานุช อายุ 23 ปี เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลสมุทรปราการนะคะ เป็นผู้เช่าบ้านหลังเกิดเหตุ ย่านลาดปลาเค้าไปจับตัวได้ที่ปอยเปรต ประเทศกัมพูชา ระหว่างการส่งตัวข้ามกลับมาเมืองไทย

แล้วก็ตำรวจจะนำตัวไปสอบสวนที่สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ ผู้ต้องหาชาวไต้หวันอีก 4 คน  ร่วมก่อเหตุฆาตกรรมนาย ชิโมเชียง อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นผู้ร่วมชาติ ขณะนี้ทั้งหมดถูกออกหมายจับเรียบร้อยแล้วนะคะ ตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามจับกุม

สามคนเนี่ย เชื่อว่ายังอยู่ที่กัมพูชา อีกคนนึงกลับไต้หวันไปแล้ว ตำรวจอยู่ระหว่างการประสานกับทางไต้หวัน เพื่อตามตัวมาดำเนินคดี ขณะที่มีผู้ให้การช่วยเหลืออีกหนึ่งคน คนนี้ทำหน้าที่เป็นคนขับรถตู้รับจ้าง รับกลุ่มผู้ต้องหาไปส่งที่ชายแดน คุมตัวได้แล้วเช่นเดียวกัน

กำลังอยู่ระหว่างการสอบปากคำ แล้วว่ามีส่วนเกี่ยวข้องยังไงบ้าง เบื้องต้นเจ้าตัวอ้างว่าแค่ทำหน้าที่ไปรับกลุ่มผู้ต้องหา แล้วพาไปส่งที่ชายแดนเท่านั้นส่วน โตโยต้า ยาริสสีขาว ที่ผู้ตายไปขโมยมาจากที่พัทยา แล้วขับเข้ามาที่กทม.ก่อนที่จะถูกฆ่าเสียชีวิต ทางเจ้าของรถก็ไปแจ้งความเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ไปเจอรถคันนี้แล้วนะคะ ไปจอดอยู่ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง อยู่หน้าหมู่บ้านย่านลาดปลาเค้า ขณะนี้ตรวจยึดรถคันนี้

จับแล้วสาวไทย
หลบหนีไปต่างประเทศ

เก็บไว้เป็นของกลางแล้วค่ะ ส่วนพลตำรวจเอกธนา ชูวงศ์ รองผบ. รอก็พูดถึงความคืบหน้าทางคดีว่า ได้รายงานเรื่องนี้ให้กับผบ. ตร.รับทราบแล้ว ยืนยันตอนนี้ได้ตัวผู้หญิงไทย ที่ร่วมก่อเหตุมาแล้ว คนนี้รองผบ. ตร. บอกว่าเป็นกุญแจสำคัญของคดีนี้เลย กำลังรอรับตัว เพื่อมาสอบปากคำเพิ่มเติมอยู่ เดี๋ยวคงจะพอได้เห็นถึงสาเหตุแล้วแหละ แรงจูงใจทั้งหมดด้วยค่ะ คือเมื่อวานตำรวจเค้าตั้งไว้สามประเด็น 

มีเรื่องทำธุรกิจผิดกฎหมายหรือเปล่า เรื่องยาเสพติด แล้วก็เรื่องชู้สาว แต่ทีนี้ผู้ตายที่เป็นชาวไต้หวัน เค้าไปทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตำรวจก็กำลังขยายผลอยู่ ว่าไปเกี่ยวโยงกับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วยหรือเปล่า ส่วนปืนผู้ก่อเหตุ ทราบว่า .45 นะคะ ล่าสุดนายธนพลอายุ 52 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของปืนกระบอกนี้ ได้เดินทางมาพบตำรวจที่สภ. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อแสดงถึงความบริสุทธิ์ใจโดยคุณธนพลบอกว่า

ได้ขายปืนกระบอกนี้ให้กับร้านปืนแห่งหนึ่ง ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้วในราคา 40,000 บาท ซึ่งได้ลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน ที่มาวันนี้เพื่อยืนยันกับตำรวจว่า ปืนกระบอกนี้ขายไปแล้ว ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นอะไรเลย ทีนี้ก็ต้องไปไล่ต่อกระดิกว่าร้านนี้ ขายให้กับใครต่อ เพราะว่าปืนนี้เอาไปใช้ก่อเหตุ ในคดีฆาตกรรมนั่นเองค่ะ