วันนี้เราก็มาติดตามข่าว หนุ่มก่อสร้าง พาเมียท้องเดินเท้าจากโคราชกลับจันทบุรี นี้กันหน่อยนะคะ เรื่องของสามีภรรยาแต่ อันนี้ไม่ได้ว่า สามีไปทำร้ายภรรยา หรือว่ามีปัญหา ตบตีอะไรกันนะคะ แต่มีเรื่องของ ผู้ชายคนนี้ ความเป็นสามีและความเป็นพ่อ คือตัวเองเป็น หนุ่มก่อสร้าง ทำงานรับเหมาก่อสร้าง แล้วปรากฏว่าถูก หัวหน้างานลอยแพ ทีนี้เมียท้องสองเดือน สุดท้ายก็ต้อง เดินเท้ากันไปแบบนี้
ในขณะที่เมียท้อง เดี๋ยวเราไปติดตาม ประเด็นข่าวนี้ไป พร้อมกันค่ะ แต่ก่อนที่จะไป แอดมินก็ต้องขอ ฝากให้ไปติดตาม ลูกพญาแร้งไทย ลืมตาแล้วในรอบ 30 ปี เทศบาลประจำผืนป่า กันด้วยนะคะ แล้วในวันนี้ แอดมินก็ต้อง ขอขอบคุณ marine88 ที่สนับสนุนบทความ ของเราในวันนี้ด้วยค่ะ
หนุ่มก่อสร้าง พาเมียท้องเดินเท้าจากโคราชกลับจันทบุรี
เค้าต้องรับผิดชอบทั้งชีวิตของเมียแล้วก็ชีวิตของลูกในท้องเมีย ซึ่งก็เป็นลูกของเขานั่นเองค่ะ เพราะว่าคุณคมสันเนี่ยเค้าบอกว่า นายจ้างเนี่ย ทิ้งงาน แล้วก็ปล่อยเค้าลอยแพ ต้องเดินเท้าจากอำเภอปักธงชัย จังหวัดโคราช ไปจนถึงจันทบุรีเลยค่ะ สองสามีภรรยาภาพแบบนี้
ปรากฏให้เห็นเค้าแบกสัมภาระ ไม่ใช่แค่เดินอย่างเดียวนะคะ แต่ว่าของเพียบเลยค่ะ ถุงปุ๋ยใบใหญ่ แบกขึ้นบ่าเลย เดินเท้าอยู่ตรง ริมถนนสาย 304 กบินทร์บุรี ศรีมหาโพธิ เป็นพื้นที่หมู่บ้านบริเวณจังหวัดปราจีนบุรี ชาวบ้านเข้าไปเห็นแบบนี้ก็เข้าไปถามถึงได้รู้เรื่องราวว่า ตัวฝ่ายสามีชื่อ
นายคมสันอายุ 30 ปี ความจริงแล้วเค้าเป็นคน จังหวัดกาฬสินธุ์ ส่วนภรรยาชื่อนางสาวกรรณิการ์ ตั้งท้องได้สองเดือนแล้วค่ะ แล้วตัวของเขาสามี คมสันบอกเค้ามาทำงานก่อสร้างอยู่ที่โคราช แต่ว่านายจ้างทิ้งงาน ปล่อยลอยแพ คนงานหมดเลย ไม่จ่ายทั้งเงิน
ค่าแรง แล้วเค้าก็ไม่มีเงินด้วย ตัดสินใจพาภรรยาเดินเท้า จากที่ปักธงชัย โคราช จะไปอยู่ที่บ้านยายที่จันทบุรี พากันเดินเท้ามาตั้งแต่ 14 กุมภาพันธ์แล้วค่ะ แล้วก็มีเงินติดตัวมาไม่กี่ 100 บาท อาศัยค่ำไหนนอนนั่น ไม่มีอะไรจริงๆ เก็บผักริมธารประทังหิวไปวันๆ ถ้าเจอผักก็กินผัก ถ้าเจออ้อยก็ไปหักอ้อยของชาวบ้านมากินประทังชีวิต เค้าบอกว่าเค้าเดินมาอาทิตย์กว่าแล้ว ส่วนมากเค้าก็ไม่กล้าช่วยเหลือ
เพราะว่า กลัวจะโดนปล้น คือคนเห็นคนก็แชร์เรื่องนี้ แล้วนักข่าวก็เห็นก็ไปช่วยเหลือ ให้เจ้าหน้าที่เนี่ยไปช่วยด้วย เค้ายังเดินกันอยู่เลยนะคะ นักข่าวเห็นแล้วก็เข้าไปคุยด้วย เค้าคงหิว นักข่าวก็เลยให้เงินไปซื้อข้าว แล้วก็ให้เงินไปซื้อน้ำกิน เค้าก็เลยได้นั่งกินข้าวกินน้ำ แล้วอีกอย่างหนึ่งคือ นักข่าวไปซื้อซาลาเปา โดยมีพ่อค้าที่เข็นรถเข็นขายซาลาเปามาพอดี เพราะว่าไปอยู่ที่ปั๊มน้ำมันด้วย ที่มีผู้สื่อข่าวก็ตามไป
เพราะว่าทั้งคู่บอกว่าเมื่อคืนเนี่ย ไปนอนที่แผงขายข้าวโพดข้างทาง เดินมาก็เข้าไปนั่งพักตรงปั๊ม แล้วก็ไปซื้อซาลาเปาตรงขายรถเล่ เค้าไม่ได้มีเงินซื้อเองนะ เค้าให้เงินเค้าไปซื้อแล้วอีกอย่างหนึ่ง ขอบคุณพี่คนขายซาลาเปาด้วย พี่คนขายซาลาเปาไม่คิดเงิน พอรู้เรื่องก็สงสารมีภรรยา แล้วคนขายก็บอกว่าเอาไปเท่าไหร่เอาให้อิ่มเลย ก็เลยได้ซาลาเปาไปหลายลูกเลย แล้วไม่ใช่แค่นั้นนะคะผู้ซื้อเค้าเองก็ได้มีการมอบเงินให้พี่เขา
ไว้ติดตัวประมาณ 100 บาท เอาไว้กินน้ำกินข้าวแล้วก็บอกว่าตอนนี้ มีคนใจบุญแล้วนะคะล่าสุด เพราะว่าเหมารถให้เลยไม่ต้องเดินแล้วค่ะ
